ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในโลกของการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความรู้ไม่ได้อยู่แค่ภายในโรงเรียนอีกต่อไป หลายครอบครัวจึงต้องเร่งปรับตัวให้ลูกของตัวเองมีความรู้ให้ทันเพื่อนร่วมชั้น บทความนี้เลยจะมาพูดถึงเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้เด็ก ๆ ทุกคนสามารถพัฒนาภาษาให้เร็ว แต่ไม่ทำให้พวกเขากลัวกัน
ทำความเข้าใจของลูกที่มีต่อภาษา
การเข้าใจสาเหตุหรือความคิดเห็นที่ลูกมีต่อภาษาอังกฤษเป็นสิ่งแรกเริ่มสำคัญ ที่จะช่วยให้พ่อแม่เข้าใจลูกมากขึ้น ซึ่งก่อนที่เราจะเริ่มช่วยลูกได้นั้น เราต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมลูกถึง “กลัว” การพูดภาษาอังกฤษ สาเหตุอาจจะหลากหลาย ไม่ใช่แค่เรื่องไม่เก่งเสมอไป ลูกอาจจะ กลัวการทำผิดพลาด หรือ กังวลว่าจะโดนหัวเราะ หากพูดไม่ถูกต้อง บางคนอาจจะแค่ รู้สึกประหม่าหรือขาดความมั่นใจ ในตัวเองเมื่อต้องสื่อสารเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคย โดยอาจเริ่มจาก
สังเกตพฤติกรรมของลูก: ว่าน้องแสดงท่าทีอย่างไรเมื่อต้องเจอสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อครูให้ตอบคำถาม เมื่อดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ หรือเมื่อมีชาวต่างชาติพูดคุยด้วย ลูกมีอาการหลบเลี่ยง เงียบไปเลย หรือแสดงความวิตกกังวลออกมาหรือไม่
เปิดใจรับฟังความรู้สึกและความกังวลที่มี: โดยต้องเป็นการรับฟังที่ปราศจากการตัดสินหรือกดดัน เพื่อให้ลูกรู้สึกปลอดภัยที่จะระบายความในใจที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ การเข้าใจปัญหาจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้สามารถเลือกวิธีรับมือและแนวทางการช่วยเหลือได้อย่างตรงจุดที่สุด
เปลี่ยนความกลัวให้เป็นความกล้า กับเทคนิคให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ ทำได้ง่ายๆ
สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
คือ การทำให้ภาษาอังกฤษกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในบ้าน ไม่ใช่แค่เรื่องที่ต้องบังคับ “เรียน” อย่างจริงจัง ลองเริ่มต้นง่าย ๆ จากสิ่งที่เด็กๆ มักต้องทำอยู่บ่อย ๆ เช่น เปิดการ์ตูนหรือเพลงภาษาอังกฤษคลอเบา ๆ ในช่วงเวลาที่ลูกทำกิจกรรมอื่น ๆ หรืออาจจะ ติดป้ายคำศัพท์ง่าย ๆ รอบบ้านตามสิ่งของที่เห็นได้ง่าย เช่น “Chair” ที่เก้าอี้, “Table” ที่โต๊ะ การที่ลูกได้เห็นและได้ยินภาษาอังกฤษบ่อย ๆ โดยไม่รู้สึกถูกบังคับ จะช่วยให้สมองคุ้นชินและเปิดรับภาษาได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่สามารถ พูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่าย ๆ แทรกในบทสนทนาประจำวัน ได้ เช่น “Good morning, honey.” หรือ “Let’s eat yummy food.” การทำแบบนี้จะทำให้ภาษาอังกฤษดูเป็นเรื่องปกติและสนุก ไม่ใช่เรื่องยากที่น่ากลัว
หากิจกรรมสร้างสรรค์ ใช้เวลาไปกับภาษาอังกฤษ
เป็นการหาเวลาว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่พ่อคุณแม่สามารถทำร่วมกับลูกที่บ้าน เพื่อส่งเสริมการพูดภาษาอังกฤษแบบไม่กดดัน ผ่านการเล่นสนุก ไม่ใช่การบังคับเรียน เช่น
สวมบทบาทสมมติ เล่นบทบาทสมมติง่ายๆ จากสถานการณ์ในชีวิตประจำวัน เช่น เล่นเป็นพ่อค้าแม่ค้ากับลูกค้า ลองพูดบทสนทนาง่ายๆ
ฟังเพลงและอ่านนิทาน ใช้เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็กที่มีจังหวะสนุกสนาน จะช่วยพัฒนาทักษะการฟังและคำศัพท์ไปพร้อมๆ กัน
ทายคำศัพท์จากภาพและท่าทาง การนำเกมส์มาเล่นกับลูก เช่น เกมทายคำศัพท์จากบัตรภาพ (Flashcards) ช่วยให้การเรียนรู้คำศัพท์เป็นเรื่องสนุกและท้าทาย ทำให้ลูกมีส่วนร่วมอีกด้วย
เปลี่ยนความกลัวให้เป็นความกล้า กับเทคนิคให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ ทำได้ง่ายๆ
เปิดโลกออนไลน์ หาสื่อที่ใช่กับตัวเด็ก
ในปัจจุบันสื่อออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ ที่สามารถทำให้ลูกพัฒนาภาษาอังกฤษขึ้นได้จริง ไม่ว่าจะเป็น คอร์สเรียนออนไลน์สำหรับเด็ก คลิปสอนภาษาอังกฤษสั้น ๆ ใน YouTube ก็สามารถทำให้ลูกสามารถเก่งภาษาง่ายขึ้น ในเวลาอันสั้น หรือแม้กระทั่งแอปพลิเคชั่นสอนภาษาอังกฤษ ที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ในตอนนี้ ตัดสินใจเลือกลงทุนให้กับลูก ด้วยเทคนิคการสอนที่สนุก เสริมสร้างความมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษแบบเฉพาะ สื่อการสอนที่หลากหลาย โดยไม่เคร่งคัดกับเนื้อหาเท่ากับที่เท่ากับที่โรงเรียน พร้อมการเรียนแบบตัวต่อตัว ทำให้ลูกๆสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่
เปลี่ยนความกลัวให้เป็นความกล้า กับเทคนิคให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ ทำได้ง่ายๆ
สร้างกำลังใจและไม่กดดัน
บทบาทสำคัญที่สุดในการช่วยให้ลูกรักและกล้าใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างมั่นใจ ไม่ใช่การเป็นครูผู้สอนที่เข้มงวด เพื่อให้เก่งตามที่พ่อและแม่คาดหวัง แต่หมายถึงเราต้องเป็น “ผู้สนับสนุน” ที่ดีที่สุดของลูก เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่พร้อมจะเข้าใจถึงปัญหา รู้จุดอ่อนจุดแข็งในการเรียนรู้ของลูกในทุกมุมมอง ด้วยเทคนิคนี้จะช่วยให้ครอบครัวสามารถสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่อภาษาให้กับลูกได้แบบระยะยาว โดยอาศัยวิธีการเหล่านี้
ความอดทนและสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ: ไม่มีใครสามารถเก่งได้ในข้ามคืน โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก การคาดหวังผลลัพธ์ที่รวดเร็วเกินไปอาจทำให้ทั้งคุณแม่และลูกรู้สึกท้อแท้ได้ จงจำไว้ว่าทุกก้าวเล็กๆ ที่ลูกพยายาม ทั้งการออกเสียงผิดๆ ถูกๆ หรือแค่การพยักหน้าเข้าใจ ก็ถือเป็นความก้าวหน้าแล้ว
หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบ: เป็นธรรมชาติที่จะอดเปรียบเทียบลูกตัวเองกับเด็กคนอื่นที่อาจจะพูดเก่งกว่า หรือดูจะเรียนรู้ได้เร็วกว่าไม่ได้ แต่การเปรียบเทียบจะส่งผลเสียต่อความมั่นใจของลูกอย่างร้ายแรง และอาจทำให้ลูกรู้สึกกดดันและต่อต้านภาษาอังกฤษมากขึ้นไปอีก ต้องอย่าลืมว่าเด็กทุกคนมีพัฒนาการและจังหวะการเรียนรู้ที่เป็นของตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือการเห็นความก้าวหน้าของลูกเราเอง ไม่ใช่การเทียบกับคนอื่น ให้ความสำคัญกับการเติบโตของลูกในแบบที่เขาเป็น
เน้นกระบวนการ ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์: ในการเรียนรู้ภาษาสำหรับเด็ก เป้าหมายหลักไม่ใช่การพูดได้อย่างถูกต้องเป๊ะ 100% ตั้งแต่เริ่มต้น แต่คือการ “กล้าลอง” และ “สนุกไปกับการเรียนรู้” ดังนั้นการให้ความสำคัญกับความตั้งใจของลูกที่พยายามสื่อสาร หรือพยายามออกเสียงคำศัพท์ แม้ว่าแกรมม่าจะยังไม่ถูกต้อง หรือสำเนียงจะยังไม่เป๊ะก็ตาม การที่ลูกกล้าที่จะเปิดปากพูด กล้าที่จะใช้ภาษา ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว หากเราไปจับผิดหรือคาดหวังความสมบูรณ์แบบมากเกินไป ลูกอาจจะรู้สึกท้อแท้และไม่อยากพูดอีกต่อไป จงสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกได้ผิดพลาด และเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้นได้อย่างสบายใจ
สรุป
การเปลี่ยนความกลัวภาษาอังกฤษของเด็กให้กลายเป็นความกล้าและความมั่นใจในการใช้ภาษาที่ได้เรียนรู้ไป นั้นอาจไม่ได้เริ่มต้นจากการเรียนในห้องเรียนแค่นั้นอีกต่อไปแล้ว แต่เริ่มจากบ้านที่เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น ลดปัญหาที่ลูกเจอระหว่างการเรียน ด้วยสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและของใช้ในชีวิตประจำวันที่เราสามารถสร้างและค้นหาเองได้ที่บ้าน